PICO LASER | ที่สุดของการลบรอยสัก

PICOLASER ที่สุดของการลบรอยสัก
เป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุดจากประเทศสหรัฐอเมริกาในการลบรอยสัก และขจัดรอยดำต่างๆ เช่น กระ, ปานดำ เป็นต้น 

เครื่องมือทัน
PICOLASER เทคโนโลยีมีความสามารถพิเศษที่ทำให้เม็ดสี และรอยสักแตกละเอียดเป็นอนุภาคเล็กๆ ซึ่งเครื่องเลเซอร์รุ่นเดิมๆไม่สามารถทำได้ โดยใช้พลังงานเลเซอร์เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งร่างกายจะมีกลไกในเก็บกินอนุภาคเล็กๆที่ถูกทำลายไปได้เอง จึงทำให้เห็นผลเร็วกว่าเมื่อเทียบกับเลเซอร์รุ่นเดิมๆ ปลอดภัยและเจ็บน้อยกว่า

ลบได้ลึกทุกสีผิว
การยิงเครื่อง PICOWAY จะใช้พลังงานต่ำมากเมื่อเทียบกับเครื่องอื่นๆ ที่เคยใช้มา แต่ได้ผลเร็วกว่าเครื่องรุ่นเดิมๆ ช่วงคลื่นของเลเซอร์สามารถทำให้รักษาได้ในคนไข้ที่มีสีผิวที่แตกต่างกัน การใช้พลังงานต่ำทำให้เจ็บเพียงเล็กน้อย และแผลสวย ซึ่ง PICOWAY เป็นเครื่องที่ปฏิวัติวงการลบรอยสักได้อย่างดีเยี่ยม ระหว่างทำการรักษาอาจรู้สึกเจ็บเล็กน้อยขึ้นอยู่กับ ตำแหน่งที่ทำการรักษาของคนไข้แต่ละราย หลังเสร็จสิ้นการรักษาให้ทำการประคบเย็นที่แผลเพื่อลดอาการเจ็บ แพทย์อาจให้ทายาปฎิชีวนะสัก 2-3 วัน ให้หลีกเลี่ยงการขัดถูบริเวณที่ทำการรักษาและหลีกเลี่ยงการออกแดดจัด

การเตรียมตัวก่อนลบรอยสักด้วย

• เว้นระยะห่างหลังจากการสักอย่างน้อย 4 สัปดาห์ เพื่อให้แผลผิวบริเวณที่สักก่อนหน้านี้หายดี
• งดดื่มแอลกอฮอล์ก่อนมาลบรอยสัก เนื่องจากแอลกอฮอล์อาจส่งผลให้สภาพผิวไม่ปกติ เช่น อาการจ้ำเลือด เป็นต้น
• สำหรับผู้ที่ผิวแพ้ง่าย ควรแจ้งแพทย์ก่อนเพื่อวิเคราะห์และวางแผนการรักษา
• งดทานยาหรือวิตามินต่างๆ ที่เร่งการละลายลิ่มเลือดอย่างน้อย 1 สัปดาห์ เช่น Aspirin, Fish Oil, Vitamin E, Primrose หรือ แปะก๊วย เป็นต้น
  
  

วิธีการดูแลหลังลบรอยสักด้วย

• หลังลบรอยสักด้วย Pico Laser ห้ามให้บริเวณที่ลบรอยสักไป โดนน้ำ 24 ชั่วโมง หลัง 24 ชั่วโมงไปแล้ว สามารถโดนน้ำได้ตามปกติ
• หลังลบรอยสักด้วย Pico Laser อาจมีอาการคันบริเวณที่ทำเลเซอร์ เป็นอาการปกติ ห้ามแกะ หรือเกา สามารถใช้ น้ำแข็งประคบเพื่อลดอาการคันหรือ รับประทานยาแก้คันได้
• หลังลบรอยสักด้วย Picoway Laser อาจมีตุ่มน้ำพองใสเล็กๆ ขึ้น ซึ่งเป็นอาการปกติ ให้ประคบเย็นช่วยบ่อยๆ งดการเจาะถุงน้ำด้วยตนเอง เพื่อป้องกันการติดเชื้อ กรณีขึ้นเยอะสามารถ มาเจาะถุงน้ำออกที่คลินิกได้
• ทำความสะอาดด้วยน้ำเกลือหรือน้ำสะอาด โดยใช้ไม้พันสำลีเช็ดเบาๆ วันละ 2 ครั้ง เช้า – เย็น หลังจากนั้นรอให้แห้ง แล้วทายาตามที่แพทย์สั่ง
• หากมีอาการปวดบริเวณที่ทำ สามารถรับประทานยาแก้ปวดได้ ครั้งละ 1 เม็ด ทุก 4-6 ชั่วโมง
• ถ้ามีอาการอักแสบ บวมแดง ให้รีบไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจดูอาการ